ผลิตภัณฑ์ของไมโครซอฟท์หลายตัวนั้น แม้จะเป็นที่นิยมในการใช้งานระดับที่บริษัท และผู้ใช้งานทั่วไปใช้งานกันเป็นจำนวนมาก แต่ก็มักจะมีช่องโหว่เล็ก ๆ น้อย ๆ ที่นำไปสู่อันตรายใหญ่โตได้
จากรายงานโดยเว็บไซต์ Cyber Security News ได้กล่าวถึงประกาศใหม่จากทางไมโครซอฟท์เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงในส่วนของ ActiveX ซึ่งเป็นเฟรมเวิร์กตัวหนึ่งบนผลิตภัณฑ์ของไมโครซอฟต์สำหรับใช้ในการรับชม และใช้งานสื่อเชิงโต้ตอบ (Interactive Contents) บนชุดโปรแกรมสำหรับการทำงานในออฟฟิศ Microsoft 365 ว่า นับตั้งแต่อัปเดตในเดือนเมษายนนี้เป็นต้นไป การใช้งาน ActiveX บน Microsoft 365 จะถูกปิดการใช้งานเป็นค่าเบื้องต้น โดยผู้ใช้งานรายใดต้องการใช้งานจำเป็นต้องเข้าไปทำการตั้งค่าเปิดใช้งานด้วยตนเอง ซึ่งการปรับเปลี่ยนดังกล่าวนั้นมาจากข้อคำนึงในด้านความปลอดภัยจากการถูกนำเอาไปใช้งานเพื่อทำการโจมตีทางไซเบอร์ เช่น การนำเอาไปใช้รันโค้ดเพื่อการปล่อยมัลแวร์ลงระบบของเหยื่อเป็นต้น
ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้จะเป็นการเปลี่ยนแปลงในระดับนโยบายกลุ่ม (Group Policy) สำหรับผู้ใช้งานแบบกลุ่มอย่างเช่น ผู้ที่ใช้งานแอปพลิเคชันในระดับบริษัท ซึ่งตัว Group Policy นั้นจะถูกตั้งค่าเป็น DisableAllActiveX เป็นค่าเบื้องต้น ส่งผลให้ผู้ใช้งานเมื่อเปิดชมคอนเทนต์ที่ต้องใช้งาน ActiveX เพื่อชมคอนเทนต์นั้นจะได้รับคำเตือนว่า “BLOCKED CONTENT: The ActiveX content in this file is blocked” โดยถ้าผู้ใช้งานต้องการใช้งาน จำเป็นที่จะต้องเป็นผู้ใช้งานในระดับผู้ดูแลระบบ (System Administrator) เข้าไปทำการปรับเปลี่ยน Group Policy Path ในส่วนของ Disable All ActiveX โดยปรับให้เป็น Disabled เพื่อให้ ActiveX กลับมาทำงานอีกครั้ง
สำหรับกลุ่มผู้ใช้งานทั่วไปนั้น สามารถแก้ไขให้กลับมาใช้งานได้ โดยเปลี่ยนการตั้งค่าตามนี้
จากนั้นเข้าไปปรับแต่ง Registry ที่
HKEY_CURRENT_USERSoftwareMicrosoftOfficeCommonSecurityDisableAllActiveX
แล้วตั้งค่าเป็น 0 (REG_DWORD)
|